skip to Main Content
ขอต้อนรับเข้าสู่ บล็อกสุขภาพ : Health Blog 66-82-339-9047 Line ID: ciham35

อาการปวดจากการใช้คอมพิวเตอร์

ออฟฟิศซินโดรม

“โอ๊ย…ปวดบ่า ปวดไหล่ ปวดหลัง เมื่อยจัง เอ…ทำไมวันนี้งานก็ไม่เยอะนะ แต่ล้าจัง….” และอีกหลากหลายคำที่จะมีตามมา ส่วนหนึ่งนั้นก็มาจากการอยู่ในท่าทางที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานานๆ โดยที่เราไม่รู้ตัวหรือไม่ทันสังเกตุนั่นเอง กราบสวัสดีครับท่านผู้อ่านทั้งหลาย หลังจากกระผมหายหน้าหายตาไปนาน 555…(ยังมามีหน้าหัวเราะอีกนะ) ต้องขออภัยอย่างแรง ด้วยภาระกิจหลายอย่างที่เข้ามาในช่วงเวลาที่ผ่านมา เลยไม่ค่อยได้มาอัพเดตหน้าบล็อกสุขภาพ นี้ให้สม่ำเสมอเท่าาที่ควร ต้องกราบขออำภัยอีกครั้งนะครับ สำหรับวันนี้ผมดูนั่นดูนี่ใน Internet ไปเรื่อยและกลับมาเช็คไฟล์ของตัวเองในเครื่องเพื่อจัดการลบทิ้งในบางไฟล์ที่ไม่ได้ใช้งาน ก็ไปเจอกับวีดีโอที่ได้โหลดมา โดยเนื้อหาเป็นการแนะนำวิธีการนั่งทำงาน โดยเฉพาะกับพวกเราท่านทั้งหลายที่นั่งทำงานหน้าคอมกันเป็นประจำ (คุณเองก็น่าจะเป็นคนหนึ่งนะ อย่างน้อยก็เล่นเฟสล่ะครับ ไม่ว่าจะปลูกผัก เลี้ยงหมู หรือหลากหลายแอพที่มีให้คุณได้เลือกเล่นกัน)

โดยอาการที่เราพูดถึงกันนี้จัดเป็นกลุ่มอาการที่เรียกว่า “ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome)” โดยอาการของ ออฟฟิศซินโดรมนี้จะเกิดหรือพบมากในกลุ่มวัยทำงาน เกิดจากการนั่งทำงานเป็นเวลานานๆ เริ่มแรกจะมีอาการปวดบ่า ไหล่ และต้นคอ ซึ่งนั่นเป็นสัญญาณเตือนจากร่างกายแล้วว่า “ฉันล้าแล้วนะ” คุณก็ต้องหยุดพักก่อนเพราะหากฝืนทำงานหรืออะไรก็ตามที่คุณกำลังทำอยู่ ในระยะยาวไม่ดีแน่ครับ การเบรคหรือหยุดพักสัก 3-5 นาทีผมว่า คงไม่ทำให้งานคุณเสียหายอะไรมากหรอกว่าไม๊ เมื่อเทียบกับผลที่จะตามมาและการต้องไปรักษาตัว ไม่คุ้มกันเลยจริงไหมครับ?

นอกจากอิริยาบทหรือท่านั่งของคุณในการทำงานแล้ว สภาพแวดล้อมเช่น โต๊ะทำงาน เก้าอี้ แป้มพิมพ์ ความสูงต่ำของหน้าจอคอมพิวเตอร์ ก็ล้วนแต่ส่งผลได้ทั้งสิ้น ปัญหาข้างเคียงที่พบได้อีกและบ่อยนอกจากการปวดต่างๆ ข้างต้นแล้ว คนทำงานออฟฟิศทั้งหลายจะได้รับเพิ่มเป็นโบนัสอีกก็คือ ปัญหาด้านสายตา เช่น ตาแห้ง ระคายเคืองตา ตามัวหรือพร่า ซึ่งเกิดจากการทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ กระพริบตาน้อย อีกทั้งยังอยู่แต่ในห้องแอร์  ส่งผลให้น้ำตามีน้อยลง นอกจากนี้การเพ่งสายตาที่หน้าจอเป็นเวลานานๆ ยังทำให้ ต้องใช้สายตาตลอดเวลาทำให้กล้ามเนื้อตาต้องทำงานมากขึ้น ทำให้ปวดตาหรือกระบอกตาได้ในที่สุด โดยเฉพาะในยุคที่ smart phone มีความจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างในปัจจุบัน คนส่วนใหญ่จะใช้เวลากับโทรศัพท์หรือ tablet กันนานในแต่ละวัน จึงจำเป็นอย่างยิ่งในการดูแลดวงตาคู่สวยให้อยู่กับเราไปนานๆ ดังนั้นควรพักสายตา ทุก 1 ชั่วโมง และหยุดพัก 15-20 นาที โดยลุกและเดินเพื่อพักสายตาและเปลี่ยนอิริยาบทหรือขยับตัวเปลี่ยนท่าทางบ้าง และควรปรับหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้ต่ำกว่าระดับสายตา 15 องศา เพื่อช่วยลดอาการปวดตาและปวดคอ

แล้วฉัน คุณหรือเธอ ต้องเร่งงานนี่จะไปนั่งสบายๆ หรือหยุดพักได้ไงล่ะ อันนี้ไม่ยากครับ (แต่ก็อย่างผมบอกไว้นั่นแหละ 3-5 นาทีไม่ทำให้งานคุณเสียหายหรอก…) ถ้าทำไม่ได้จริงๆ นี่เลยครับ! คุณก็ลองทำตามนี้ดูนะ

1.เงยหน้าหลบจากหน้าจอสักนิด หรือมองอะไรที่มีสีเขียวดู

2.วางต้นไม้เล็กๆ ไว้หน้าจอก็ได้

3.เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทบ้างก็ดีนะ

4.หาน้ำพุ มาตั้งเพื่อเพิ่มความชื้นให้อากาศในห้อง ผมหมายถึง น้ำพุแบบที่เขามีเปิดกันในสปา หรือร้านอาหารน่ะ ไม่ต้องใหญ่มาก พอประมาณครับ

5.วิธีนี้ผมใช้อยู่ ใช้ถ่านแบบเดียวกับร้านหมูกะทะน่ะครับ ใส่แจกันหรือถ้วยเล็กๆ วางไว้หน้าจอเพื่อดูดรังสีจากหน้าจอ (ช่วยได้ระดับหนึ่งน่ะ) แล้วใช้ได้นานแค่ไหน คุณสังเกตุจากสีของถ่านนะครับมันจะจางๆ ลงไป ก็เอาอันใหม่มาเปลี่ยนได้แล้วครับ

555…ตอนนี้ผมเริ่มมีอาการบ้างแล้ว สงสัยต้องขอพักบ้างแล้ว ไงก็ชมวิดีโอดูนะครับเป็นคลิปสั้นๆ สัก 4 นาทีเห็นจะได้ สนุกและได้สาระดี ขอให้รวยๆ กันทุกคน สุขภาพแข็งแรง ได้ใช้เงิน ด้วยความปรารถนาดีจาก “บล็อกสุขภาพ” นะคร๊าบ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Back To Top