skip to Main Content
ขอต้อนรับเข้าสู่ บล็อกสุขภาพ : Health Blog 66-82-339-9047 Line ID: ciham35

โรคกรดไหลย้อน (GERD)

โรคกรดไหลย้อน

“กรดไหลย้อนใครคิดว่าไม่สำคัญ ไหลอ่อนๆ เท่านั้นทำเอาปากคอฉันแสบเหลือทน…..” อย่าเพิ่งสับสนหรือคิดว่าผมเพี้ยนอะไรหรือเปล่าอยู่ก็มาร้องเพลงแบบนี้ จริงๆ อาจจะไม่ค่อยน่าฟังสักเท่าไรหากผมจะร้องให้คุณๆ ฟังกันน่ะครับ วันนี้ผมเองก็นำเรื่องราวใกล้ตัวของเราๆ ท่านๆ มาให้ได้ขบคิดกันสักนิด จริงๆ จะว่าไปแล้วผมเองก็ประสบอยู่เหมือนกันนะครับกับเจ้าภัยใกล้ตัวนามกรว่า “กรดไหลย้อน” หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือ Gastro-Esophageal Reflux Disease : GERD นั่นเองครับ เจ้าเกริต์นี้จะย่องมาหาเราตอนเราหลับครับทำตัวกลมกลืนมาตามหลอดอาหารของเราแต่ที่สำคัญมันไม่ได้มามือเปล่าครับ มันเอากรดในกระเพาะอาหารมาด้วยนั่นเอง ทำให้เรารู้สึกแสบร้อนบริเวณลำคอหรือกลางอกไงล่ะครับ

 

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จัก Gastro-Esophageal Reflux Disease : GERD กันสักนิดนะครับโรคกรดไหลย้อน เกิดจากของเหลวที่ไหลย้อนกลับไปจากกระเพาะอาหารเข้าไปในหลอดอาหารโดยของเหลวที่ว่าก็คือ กรดในกระเพาะอาหาร โดยอาการที่พบจะมีอาการอักเสบของหลอดอาหารควบคู่กันไปด้วย และอาการที่พบเห็นได้เด่นชัดก็คือ ผู้ป่วยจะมีอาการแสบร้อนกลางอกหรือมีอาการคล้ายเศษอาหารติดคออยู่เสมอเมื่อกลืนน้ำลาย และร่วมกับอาการเหมือนมีน้ำรสเปรี้ยวขมไหลย้อนมาที่คอหรือปาก หากมีอาการรุนแรงจะถึงขั้นเป็นมะเร็งหลอดอาหารได้ นอกจากนี้ก็อาจจะมีอาการจุก เสียด แน่นท้องควบคู่กันไปด้วย

หากถามว่าแล้วสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคกรดไหลย้อนนี้หล่ะมาจากอะไร? จริงๆ แล้วโรคนี้เกิดได้หลายสาเหตุซึ่งองค์ประกอบหลักๆ ก็ได้แก่ หลอดอาหารและกระเพาะอาหาร หากคุณไปพบแพทย์ๆ จะบอกคุณถึงคำศัพท์คำหนึ่ง “หูรูดหลอดอาหาร” แล้วสำคัญยังไง คำตอบก็คือ หูรูดหลอดอาหารจะเป็นเหมือนประตูเปิดปิดเพื่อกั้นไม่ให้กรดในกระเพาะอาหารไหลกลับมาที่หลอดอาหารและคอของคุณนั่นเอง โดยหูรูดหลอดอาหารจะเปิดต่อเมือมีการกลืนอาหารและจะปิดในทันทีเมื่อจบกระบวนการกลืน ดังนั้นในรายที่เป็นโรคกรดไหลย้อนจะพบว่า หูรูดหลอดอาหารจะเกิดการหย่อนตัวหรือเปิดบ่อยกว่าปกติ ทำให้กรดสามารถไหลย้อนกลับมาสู่หลอดอาหารและลำคอได้

แนวทางในการป้องกันหรือการปฏิบัติตัวหากพบว่าเข้าข่ายเป็นโรคกรดไหลย้อน

โดยทั่วไปหากคุณไปพบแพทย์ๆ จะทำการรักษาอาการที่คุณเป็นหรืออาการที่ตรวจพบก่อน เช่น อาการอักเสบของหลอดอาหาร และการป้องกันสิ่งแทรกซ้อนต่างๆ สั่งยาลดกรด ขับลม แก้อักเสบ ฯลฯ แต่วิธีที่เป็นแนวทางพื้นฐานที่สุดก็คือ “การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคุณ” นั่นเอง ทำได้ดังนี้

1.งดการสูบบหรี่ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลล์ น้ำอัดลม ชา กาแฟ

2.รับประทานอาหารให้เป็นเวลา ลดอาหารมัน ของทอด ของหวาน หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารก่อนนอนอย่างน้อย 3-4 ชั่วโมง

3. รักษาน้ำหนักตัว ให้อยู่ในเกณฑ์ที่พอดี

4.คุณอาจจะไม่รู้ว่า เสื้อผ้าที่คุณสวมใส่ก็มีผลต่อโรคนี้เช่นกัน ดังนั้นคุณควรสวมเสื้อผ้าที่สบายๆ ไม่แน่นหรือคับจนเกินไปเพราะจะเป็นการไปกดทับกระเพาะอาหาร และไม่ควรก้มตัวไปด้านหน้ามากๆ หลังรับประทานอาหาร

5.ควรหาเวลาพักผ่อน และออกกำลังกายเป็นประจำ เพราะความเครียดมีผลทำให้ร่างกายมีการหลั่งกรดออกมามากกว่าปกติ นั่นย่อมไม่ดีต่อตัวคุณเองแน่ๆ จริงไหม?

6.การนอนควรนอนตะแคงซ้ายมากกว่าขวา เพราะหลอดอาหารจะอยู่สูงกว่ากระเพาะอาหารทำให้ลดแรงกดที่จะทำให้กรดไหลย้อนกลับเข้าสู่หลอดอาหารได้ และควรปรับหัวเตียงให้ยกสูงขึ้น จะช่วยป้องกันการไหลย้อนกลับของกรดในกระเพาะอาหารได้ ไม่ควรใช้วิธีการหนุนหมอนหลาย ๆ ใบ เพราะจะมีผลต่อกระดูกคอของคุณได้

ตอนนี้เราก็รู้ถึงต้นเหตุที่ทำให้ภัยร้ายใกล้ตัวนี้มาทำร้ายเราได้แล้วนะครับ ที่เหลือคงอยู่ที่ตัวคุณเองแล้วว่าจะรับมืออย่างไร และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคุณเองเพื่อรับมือกับมันให้ได้อย่างดีที่สุด ท้ายนี้ผมยังคงบอกคุณเหมือนอย่างเคยนั่นแหละครับ “สุขภาพที่ดีหาซื้อไม่ได้ด้วยเงิน คุณต้องสร้างขึ้นมาด้วยตัวคุณเอง” ขอทุกท่านสุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยกันถ้วนหน้านะคร๊าบ…

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Back To Top